แฟนคลับผู้หลงใหลในเสน่ห์ของเหล่า เจ้าหญิงดิสนีย์ ทั้ง 11 องค์เตรียมอัพดีกรีความสวยระดับเจ้าหญิงด้วยบิวตี้ไอเท็มลายเจ้าหญิงดิสนีย์ และตื่นตาตื่นใจไปกับสินค้าและของสะสมคอลเลกชั่นเจ้าหญิงดิสนีย์สุดน่ารักลิขสิทธิ์จาก ไลเซนซีของบริษัท เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด

พร้อมพบกับคอลเลกชั่นพิเศษของเจ้าหญิงแอเรียล ในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี ของภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง ‘เงือกน้อยผจญภัย’ โดยแฟนๆ ที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสามารถมาที่งาน Disney Princess: Create Your Story ที่รวบรวมสินค้าคอลเลกชั่นเจ้าหญิงทั้งหมดมาไว้ในที่เดียว ณ โซนแฟชั่นแกลอเรีย ชั้น 1 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 7 เมษายน 2562

The post แฟนคลับเจ้าหญิงดิสนีย์เตรียมให้พร้อม! กับบิวตี้ไอเท็มและสินค้าคอลเลกชั่นใหม่สุดน่ารัก appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

มาอัพเดทคอลเล็คชั่นใหม่กันค่ะ JASPAL Gallery ไลน์เสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จด้วยคอนเซ็ปต์คัดสรรศิลปินดังจากทั่วโลกทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมออกแบบคอลเล็คชั่นโดยถ่ายทอดระหว่างศิลปะกับเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน ครั้งนี้ได้ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวสวีเดนมากฝีมือ Mr. André Saraiva เจ้าของคาแร็คเตอร์การ์ตูนสุดร่าเริงอย่าง Mr. A ด้วยใบหน้าวงกลมและรอยยิ้มขนาดใหญ่ พร้อมดวงตารูปตัวอักษร O และ X มาร่วมรังสรรค์ผลงานสุดชิคผ่านคอลเลกชั่นใหม่ในสไตล์สตรีทแฟชั่นต้อนรับฤดูร้อนด้วยคอนเซ็ปต์ HELLO SUMMER ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชายหาดต่างๆ ในเมืองไทยที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีดารา เซเลบริตี้ อาทิ ขันเงิน เนื้อนวล, ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์, ยูมิโกะ สุชิยะ, ปณต คุณประเสริฐ และ อโณทัย นิรุตติเมธี มาร่วมงาน ที่ร้าน JASPAL ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ภายในงานมีเซเลบริตี้สายสตรีทชื่อดังมาร่วมชมคอลเล็คชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้กันอย่างคับคั่งบรรยากาศในงานถูกเนรมิตด้วยสีชมพูสดใสที่เป็นคอนเซ็ปต์หลัก มาดิสเพลย์ให้เหมือนอยู่ริมชายหาดอันสนุกสนาน มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ห่วงยาง เซิร์ฟบอร์ด กระติกน้ำ ที่พร้อมให้ทุกคนเตรียมตัวไปพักผ่อนริมทะเลได้อย่างเต็มอิ่ม รวมถึงโฟโต้บูธที่ตกแต่งด้วยกราฟฟิตี้น่ารักๆให้ถ่ายรูปลงโซเชียลกันจุใจ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์พิเศษของงานที่ มร.อังเดร ซาไลวา มาแสดงการเพ้นท์กราฟฟิตี้รูป Mr. A ให้ชมกันสดๆ และแฟชั่นนิสต้าทุกคนยังสามารถมานำเสื้อมาให้ มร.อังเดร พ่นสเปย์ลายเซ็นลงบนเสื้อผ้าหรือกระเป๋ากันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

มร.อังเดร ซาไลวา (Mr. André Saraiva) ศิลปินกราฟฟิตี้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนี้ว่า “ตอนที่ยัสปาลติดต่อมาก็รู้สึกยินดีและตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกัน เพราะชอบประเทศไทยอยู่แล้วโดยเฉพาะทะเลของไทย ไอเดียของคอลเล็คชั่นนี้คือความเป็นซัมเมอร์และฮอลิเดย์ เมื่อพูดถึงฤดูร้อนทุกคนก็จะนึกถึงชายหาดจึงเลือกใช้สีชมพูเป็นหลักทำให้งานดูน่ารักสดใสมากขึ้น สีชมพูเป็นสีที่มีความหมายเพราะเริ่มแรกที่ผมสร้างคาแรคเตอร์ก็ใช้สีนี้จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของงานตัวเอง จึงอยากใส่ความหมายดีๆนี้ลงไปในคอลเลกชั่นเพื่อส่งต่อความมีชีวิตชีวาให้ทุกคนด้วยครับ”

ด้านสาวอิลลัสเตรเตอร์สายแฟชั่นอย่าง อโณทัย นิรุตติเมธี กล่าวว่า “ชอบคอลเล็คชั่นนี้ตรงที่การนำเอาสตรีทอาร์ตมาผสมผสานกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว และการนำสีชมพูมาใช้เป็นสีหลักเป็นการเปิดกว้างว่าสีนี้ไม่ใช่แค่ของผู้หญิงอีกแล้วแต่ผู้ชายก็ยังใส่ได้เช่นกัน ดีไซน์ของเสื้อผ้าและไอเทมต่างๆก็สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ง่ายกับทุกลุคในชีวิตประจำวันเลยค่ะ”

สำหรับการครีเอทลุคในช่วงฤดูร้อนคงพลาดไม่ได้กับไอเท็มหลักอย่างเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ HELLO SUMMER เป็นการผสมผสานลวดลายคาแรคเตอร์การ์ตูน Mr. A เพิ่มความสนุก ความมีชีวิตชีวาผ่านสีสันบนผืนผ้าในสไตล์แฟชั่นสตรีทอาร์ตเพื่อนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์เป็นลุคสุดชิคกับไอเท็มต่างๆไม่ว่าจะเป็น หมวก กระเป๋า รองเท้า แว่นตา เพื่อความสนุกสนานกับการแต่งตัวสำหรับเดินทางคลายร้อนในซัมเมอร์นี้ และอีกหนึ่งแรงบันดาลใจคือชายหาดยอดนิยมของเมืองไทย ถือเป็นจุดหมายปลายทางในวันหยุดหน้าร้อนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จึงได้รังสรรค์ไอเทมสุดพิเศษจากเมืองพัทยา ชายหาดแห่งสีสัน เกาะสมุย สวรรค์กลางอ่าวไทย และเกาะภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน รวมถึงเซิร์ฟบอร์ดที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อนก็ถูกนำมาครีเอทลวดลายในคอลเลกชั่นนี้โดยเฉพาะ

มร. อังเดร ซาไลวา(Mr. André Saraiva) อาร์ติสท์หนุ่มสัญชาติสวีดิช เริ่มสนใจเกี่ยวกับกราฟฟิตี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเน้นลายเส้นที่เรียบง่ายแต่แฝงความสนุกสนานผ่านท่าทางและสีหน้าของตัวการ์ตูนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเทคนิคในการใช้สีเป็นสไตล์โมโนโครมาติก(Monochromatic)หรือการใช้เพียงสีเดียวในรูปภาพนั้น โดยสีที่เขาใช้เป็นหลักคือสีชมพูในการสร้างสรรค์ผลงาน นอกจากนี้เขายังได้ทำผลงานร่วมกับแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ระดับโลกอีกมากมาย อาทิ Louis Vuitton, CHANEL, Tiffany & Co.และ Nike เป็นต้น ซึ่งผลงานของเขายังได้จัดแสดงโชว์ในพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัยทั่วโลก เขามองว่าการเดินทางแต่ละครั้งเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของโปรเจ็คที่ปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวศิลปะอันยืนยาวซึ่งจะใช้สัมผัสทางสายตาในการดื่มด่ำงานเหล่านั้นรวมถึงเอกลักษณ์ของ Mr. A ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขาในแง่ของศิลปะ

The post JASPAL Gallery x André ผลงานกราฟฟิตี้ระดับโลกในคอนเซ็ปต์ HELLO SUMMER appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์…ให้มีความสุขพร้อมความอร่อยของคุณและครอบครัว ร้านอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทยด้วยโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สงกรานต์ ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับบุฟเฟ่ต์มื้อต่างๆ ระหว่างวันที่ 6 – 20 เมษายน 2562

พาครอบครัวมาอร่อยกับบุฟเฟ่ต์คุณภาพในราคาพิเศษที่มีให้คุณเลือกทั้งอาหารนานาชาติ ซีฟู้ดสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขาปูยักษ์ หอยนางรม กุ้งแม่น้ำเผา ไปจนถึงสเต็กเนื้อ ซี่โครงแกะ ปลากระพง อาหารจานร้อนต่างๆ  สเตชั่นพาสต้าที่มีเชฟมาปรุงให้คุณใหม่จานต่อจาน อาหารญี่ปุ่น อาหารอินเดีย พร้อมของหวาน เครป และน้ำพุช็อคโกแล็ต โดยเมนูไฮไลท์จะแตกต่างกันไปตามราคาโปรโมชั่นและมื้ออาหาร

ราคาโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สงกรานต์ 2562

• บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน: วันจันทร์ – วันเสาร์ ราคา 399 บาทสุทธิ/ท่าน

หอยนางรมสด กุ้งหวาน เมนูพาสต้าตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ อาหารไทยและยุโรปจานร้อน  สลัดบาร์ ชีส และของหวาน

• บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อค่ำ: วันศุกร์ – วันเสาร์ ราคา 1,000 บาทสุทธิ/ท่าน

ขาปูยักษ์ หอยนางรมฟินเดอแคลร์  กุ้งแม่น้ำเผา เนื้อย่าง ซี่โครงแกะย่าง  ซูชิ ซาชิมิ อาหารไทยและยุโรปจานร้อน      สลัดบาร์ ชีส และของหวาน

• บุฟเฟ่ต์บรั้นช์: วันอาทิตย์ ราคา 1,200 บาทสุทธิ/ท่าน

ขาปูยักษ์ ปูหิมะ หอยนางรมฟินเดอแคลร์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งแม่น้ำเผา สเต็กเนื้อวากิว ฟัวกราส์ คาเวียร์สเตชั่น ขาแฮมอบน้ำผึ้ง เนื้อเวลลิงตัน ซูชิ ซาชิมิ อาหารไทย อาหารอินเดีย อาหารยุโรป ข้าวผัดสเปนกระทะยักษ์ ห้องชีสที่มีชีสให้เลือกกว่า 20 ชนิด ซึ่งเปิดให้บริการไปจนถึงเวลา 16.00น. พร้อมของหวานอีกมากมาย

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สงกรานต์ – ร้านอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท

ระยะเวลาโปรโมชั่น:             ระหว่างวันที่ 6 – 20 เมษายน 2562

เวลา:                                      มื้อกลางวัน 12.00 – 14.30 น.| บรั้น 12.00 – 15.00 น. | มื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:        02-204-4071

เว็ปไซต์:                                http://www.pullmanbangkokgrandesukhumvit.com/th/offers/songkran-buffet-promotion/

The post โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สงกรานต์ ห้องอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

กลับมาอีกครั้งสำหรับงานประกาศรางวัล Season Awards (สีสัน อะวอร์ดส์) ซึ่งจัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 30 แล้ว โดยนิตยสาร “สีสัน” ที่มอบรางวัลให้กับศิลปินและคนเบื้องหลังของวงการเพลงไทย ได้ทำการประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายผ่านทางแฟนเพจ Season Magazine ทั้งหมด 11 สาขา ไปแล้ววานนี้ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

ศิลปินเดี่ยวยอดเยี่ยม
พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ จากอัลบั้ม “แกกับฉัน”
(สิงโต) นำโชค ทะนัดรัมย์ จากอัลบั้ม Just Have Fun with It
ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ จากอัลบั้ม 100%
สุทธิพงศ์ แจ่มจำรัส (ใหม่ สิบล้อ) จากอัลบั้ม Superstar 3
กันยารัตน์ (ลุลา) ติยะพรไชย จากอัลบั้ม Levitate
เพนกวิน วิลล่า จากอัลบั้ม J

ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม
(ชาติ) สุชาติ แซ่เห้ง จากอัลบั้ม “สามัญ”
จุลโหฬาร จากอัลบั้ม “จุลโหฬาร”
แดเนี่ยล ดิษยะศริน จากอัลบั้ม Bedroom
เวก้า จากอัลบั้ม Macaron Psych Trip
โน วัน เอลส์ จากอัลบั้ม One
เยิ้ม จากอัลบั้ม “ความลับจักรวาล”

ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม
ดุลยสิทธิ์ สระบัว แอนด์ บางลำพู บลูส์ กัมปะนี จากอัลบั้ม Dulyasith Srabua and Banglumpoo Blues Company
เทเล็กซ์ เทเล็กซ์ส จากอัลบั้ม Enough for Loneliness and Internet Today
อพาร์ตเมนต์คุณป้า จากอัลบั้ม “อพาร์ตเมนต์คุณป้า”
เดอะ เยอร์ส จากอัลบั้ม Cry
คิดแนปเปอร์ส จากอัลบั้ม Signal

ศิลปินร็อคยอดเยี่ยม
ชนุดม จากอัลบั้ม “โลกที่สาม”
บอมบ์ แอ็ท แทร็ค จากอัลบั้ม White
ซีล จากอัลบั้ม Rizing
ภูมิจิต จากอัลบั้ม Midlife
ลิเบอร์ตี้ จากอัลบั้ม Master Niche
สเลอร์ จากอัลบั้ม Bin

อัลบั้มยอดเยี่ยม
J โดย เพนกวิน วิลลา
“อพาร์ตเมนต์คุณป้า” โดย อพาร์ตเมนต์คุณป้า
Superstar 3 โดย สุทธิพงศ์ แจ่มจำรัส (ใหม่ สิบล้อ)
Just Have Fun with It โดย (สิงโต) นำโชค ทะนัดรัมย์
Cry โดย เดอะ เยอร์ส
Levitate โดย กันยารัตน์ (ลุลา) ติยะพรไชย

อัลบั้มร็อคยอดเยี่ยม
“แกกับฉัน” โดย พงษ์สิทธิ์ คำภีร์
“โลกที่สาม” โดย ชนุดม
White โดย บอมบ์ แอ็ท แทร็ค
Master Niche โดย ลิเบอร์ตี้
Bin โดย สเลอร์

โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม
โกมล บุญเพียรผล จากอัลบั้ม “สามัญ”, ศิลปิน: (ชาติ) สุชาติ แซ่เห้ง
สุธี แสงเสรีชน จากอัลบั้ม Master Niche, ศิลปิน: ลิเบอร์ตี้
ประกาศิต แสนปากดี จากอัลบั้ม “จุลโหฬาร”, ศิลปิน: จุลโหฬาร
กิจจาศักดิ์ ตริยานนท์ จากอัลบั้ม Just Have Fun with It, ศิลปิน: (สิงโต) นำโชค ทะนัดรัมย์
มุรธา ร่วมรักษ์ และ อัครชน ราชปันดิ จากอัลบั้ม Levitate, ศิลปิน: กันยารัตน์ (ลุลา) ติยะพรไชย

เพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยม
“วิวรณ์” (คำร้อง-ทำ​นอง​: วิริทธิ์พล กมลชัยณิชกุล, เรียบเรียง: สโตอิค, ศิลปิน: สโตอิค)
“จุลโหฬาร” (คำร้อง: เกิดสุข ชนบุปผา, ทำนอง: เกิดสุข ชนบุปผา, เรียบเรียง อลงกฎ เจริญธรรม และ ประกาศิต แสนปากดี, ศิลปิน: จุลโหฬาร)
“จริงๆ” (คำร้อง: พุฒิยศ ผลชีวิน และ อาสนัย อาตม์สกุล, ทำนอง: พุฒิยศ ผลชีวิน, เรียบเรียง: ภูมิจิต, ศิลปิน: ภูมิจิต)
“คนที่ยังไม่รู้ว่าใคร” (คำร้อง-ทำนอง: จิตติพล ถาวรกิจ, เรียบเรียง: โน วัน เอลส์, ศิลปิน: โน วัน เอลส์)
“สาวน้อย” (คำร้อง-ทำนอง-เรียบเรียง: ดุลยสิทธิ์ สระบัว, ศิลปิน: บางลำพู บลูส์ กัมปะนี)
“วิกฤติวัยกลางคืน” (คำร้อง-ทำนอง: ตุล ไวฑูรเกียรติ, ภู่กัน สันสุริยะ และ ปิย์นาท โชติกเสถียร, เรียบเรียง: อพาร์ตเมนต์คุณป้า, ศิลปิน: อพาร์ตเมนต์คุณป้า)

เพลงร็อคยอดเยี่ยม
“ไม่เหมือนเดิม” (คำร้อง-ทำนอง: ชนุดม, ศิลปิน: ชนุดม)
“จด feat. ริม ซิลลี่ ฟูลส์” (คำร้อง: วงศกร เตมายัง, ทำนอง: บอมบ์ แอ็ท แทร็ค, ศิลปิน: บอมบ์ แอ็ท แทร็ค)
“ปลุก” (คำร้อง: ปราชญ์ พงษ์ไชย, ทำนอง: ศิลา นามเทพ และ ปราชญ์ พงษ์ไชย, ศิลปิน: ซีล)
“ลืมฝัน” (คำร้อง-ทำนอง: บดินทร์ บัวหลวงงาม, ศิลปิน: ฮาร์โมนิค ดิสทอร์ชั่น)
“แสงสว่าง” (คำร้อง-ทำนอง: เอนก ไอศวรรย์ศาลี, ศิลปิน: ลิเบอร์ตี้)

เพลงยอดเยี่ยม
“วงโคจร” (คำร้อง: อลงกฎ เจริญธรรม, ประกาศิต แสนปากดี และ อภินุตตร์ พรหมภักดี, ทำนอง: อลงกฎ เจริญธรรม และ ประกาศิต แสนปากดี, ศิลปิน: จุลโหฬาร)
“เว…” (คำร้อง-ทำนอง: เจตมนต์​ มละโยธา, ศิลปิน: เพนกวิน วิลลา)
“ต่าง” (คำร้อง-ทำนอง: สุทธิพงศ์ แจ่มจำรัส, ศิลปิน: สุทธิพงษ์ แจ่มจำรัส (ใหม่ สิบล้อ))
“คนบาป” (คำร้อง-ทำนอง: ชนุดม สุขสถิตย์, ศิลปิน: ชนุดม)
“แสงและเงา” (คำร้อง-ทำนอง: ตุล ไวฑูรเกียรติ, ศิลปิน: อพาร์ตเมนต์คุณป้า)
“ชีวิตเดี่ยว” (คำร้อง-ทำนอง: ปณต คุณประเสริฐ, ศิลปิน: ธงไชย แม็คอินไตย์)

เพลงบรรเลงยอดเยี่ยม
“The Great Barrier of Reef” – ฟ็อกซี่
“Evening in Ayuttaya” – ทริเปิ้ล เจ. แจ็ซซ์ ทริโอ
“Grand Openning” – ครูแอ๊ด แอนด์ เดอะ สะล้อ
“A Song for Maxim” – แม็กซิม ควินเท็ท
“เลิงนกทา” – ดุลยสิทธิ์​ สระบัว แอนด์ บางลำพู บลูส์ กัมปะนี
“Liberty” – ลิเบอร์ตี้

โดยวันงาน “สีสัน อะวอร์ดส์” ครั้งที่ 30 ประจำปีพ.ศ. 2561 จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562 ณ ห้องแกรนด์ บอลล์รูม โรงแรม สวิสโซเท็ล กรุงเทพ ถ.รัชดาภิเษก  ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/SeasonMagazine และ  www.facebook.com/Seasonawards/

#SeasonAwards30

The post เปิดโผผู้เข้าชิง “สีสัน อะวอร์ดส์” ครั้งที่ 30 รอบสุดท้าย appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

จาการ์ตา อินโดนีเซีย 26 มีนาคม 2562 : ลาซาด้าพา 7 หนุ่มนักแสดงวัยรุ่นสุดฮอตนำทีมแฟนคลับลัดขอบฟ้าไปมีทแอนด์กรี๊ดไกลถึงอินโดนีเซีย พร้อมชมศิลปินระดับโลก ดูอา ลิปา แบบติดใกล้ชิดติดขอบเวที ในงาน Lazada Super Party คอนเสิร์ตใหญ่ฉลองครอบรอบ 7 ปีของลาซาด้า ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ ณ กรุงจาการ์ตา

ลาซาด้า (Lazada) ผู้นำอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พา 7 หนุ่มนักแสดงวัยรุ่นไทย ได้แก่ เจเจ – กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, เจมส์ – ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, แปลน-รัฐวิทย์   กิจวรลักษณ์, กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง และไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต พร้อมแฟนคลับและผู้โชคดีจากกิจกรรมกว่า 100 ชีวิต บินลัดฟ้าเข้าร่วมคอนเสิร์ต Lazada Super Party ฉลองวันเกิดครบรอบ 7 ปี  ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เวลา 20.00 น. ณ อินโดนิเซีย คอนเวนชั่น เอ็กซิบิชั่น (Indonesia Convention Exhibition) กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมเปิดไลฟ์สตรีมมิ่งคอนเสิร์ตแบบสดๆ บนแอปพลิเคชันลาซาด้า โดยมีศิลปินระดับโลกอย่าง “Dua Lipa” (ดูอา ลิปา) ร่วมเอ็นเตอร์เทนนักช้อปออนไลน์พร้อมกัน 6 ประเทศทั่วภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และเวียดนาม

นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิลปินและเซเลบริตี้ชื่อดังจากทั่วภูมิภาคร่วมงานคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็นนางแบบและนักแสดงเชื้อสายอินโดนิเซียน-ออสเตรเลียน “Nadya Hutagalung”, มิสยูนิเวิรส์ 2015 “Pia Wurtzbach”, นักแสดงตลกและพรีเซนเตอร์ชื่อดังจากเวียดนาม “Tran Thanh” และ “Allan Wu” นักแสดงชั้นนำของเอเชียที่จะมาร่วมเป็นพิธีกร พร้อมการแสดงที่แฟนๆ ยังพลาดไม่ได้จากเหล่าแร็ปเปอร์ สุดคูล โดยประเทศไทยได้ส่ง UrboyTJ ร่วมแจมในคอนเสิร์ตกับแร็ปเปอร์จากหลากหลายประเทศ อาทิ Hael Husaini, Saykoji, Ismail Izzani, THELIONCITYBOY, Angger Dimas, และ Dipha Barus ซึ่งจะช่วยเพิ่มดีกรีความสนุกในปาร์ตี้ด้วยแร็ป แบทเทิล (Rap battle) ด้วย

สำหรับการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเป็นครั้งแรกที่ลาซาด้าได้นำเอาการช้อปปิ้ง มารวมกับ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Entertainment) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในรูปแบบของ “ช้อปเปอร์เทนเม้นต์” (Shoppertainment) ผ่านแอปพลิเคชันที่ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ไปพร้อมๆ กับไลฟ์สตรีมความบันเทิงในเวลาเดียวกัน ซึ่งลูกค้าสามารถชมผ่านไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ต ซูเปอร์ ปาร์ตี้ (Super Party) เฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 7 ปีบนแอปพลิเคชันของลาซาด้าได้ในวันและเวลาดังกล่าว

The post LAZADA เนรมิตเวทีคอนเสิร์ต เชิญศิลปินระดับโลก Dua Lipa ร่วมฉลองครบรอบ 7 ปี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ช่อง 7HD ร่วมกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมด้วย บิโอเร แพนทีน และผู้สนับสนุนร่วม ได้แก่ รถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์   กันตนา เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์   เครื่องประดับ SYMPHONY  นาฬิกา ANNE KLEIN   เครื่องสำอาง Arty Professional By BSC   ชลาชล แบงค็อก รองเท้าบีเอสซี และ GMM Live House @ CentralWorld  จัดการประกวดรอบตัดสิน ไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2019 (THAI SUPERMODEL CONTEST 2019) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17 และสมาร์ทบอย 2019 (SMART BOY 2019) ครั้งที่ 6 ที่ GMM Live House @ CentralWorld

บรรยากาศในการจัดงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดากองเชียร์ของ 20 สาวมั่นผู้เข้าประกวด ไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2019 และแฟนคลับของเหล่าศิลปินดารามารอให้กำลังใจแน่นฮอลล์  ครั้งนี้ได้ 2 พิธีกร วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ และเจสสิก้า สมปอง เป็นผู้ดำเนินรายการ

และได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้มีชื่อเสียงจากวงการแฟชั่น ผู้จัดละคร นักแสดง ร่วมตัดสินตำแหน่งไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2019  ได้แก่ จิตรลดา ดิษยนันทน์ อมาตย์ นิมิตภาคย์ พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ แซมมี่ เคาวเวลล์ และอ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ส่วนคณะกรรมการตัดสินตำแหน่งสมาร์ทบอย 2019 ได้แก่  ลิตา ตะเวทิกุล เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร และอ๊อฟ-ชนะพล สัตยา

ในช่วงเก็บตัวผู้ประกวดที่ผ่านมา เหล่าไทยซูเปอร์โมเดล ได้ผ่านการฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ทั้งการเดินแบบ การแสดง และพัฒนาบุคลิกภาพ รวมถึงได้ฝึกซ้อมการแสดงโชว์ในรอบตัดสิน สำหรับงานวันนี้จัดเต็มด้วยโชว์อลังการ “VOGUE” โชว์เปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้งไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2019 ทั้ง 20 คน และผู้เข้าประกวดสมาร์ทบอย 2019 อีก 12 คน  สนุกสนานกับโชว์ “THE STAR IS BORN” และ “THE RHYTHM PHENOMENON” ที่มีศิลปินสุดแนววงดัง THAITANIUM มาสร้างความคึกคักให้กับเวทีพร้อมกับผู้เข้าประกวด ที่ออกมาเฉิดฉายอย่างมั่นใจ ทำให้แฟชั่นโชว์นี้ร้อนแรงยิ่งกว่าปีก่อน ๆ

พร้อมตื่นตะลึงกับโชว์ชุด “FASHION EXTRAVANGAZA” ที่มาพร้อมมินิคอนเสิร์ตจาก ลิเดีย ควงคู่พระเอกดัง มิกค์ ทองระย้า มาร้องเพลงปล่อยจังหวะมัน ๆ ไม่แพ้กันกับโชว์จากสองสาวดูโอเสียงทรงพลัง นิว-จิ๋ว แทคทีมคู่กับ 2 พระเอกเลือดใหม่ เข้ม-หัสวีร์  และเกรท-สพล จัดเต็มไม่มีกั๊กทั้งเสียงเพลง และลีลา เรียกว่าเอ็กซ์คูซีฟเฉพาะเวทีนี้ 

นอกจากนี้อุณหภูมิความสนุกยังพุ่งสูงขึ้นด้วยทั้งลีลาร้องและแดนซ์จากนางเอกสาว พิม-พิมประภา ที่จัดเต็มพลังทุกสเต็ป จนเวทีร้อนระอุกันเลยทีเดียว ส่งท้ายก่อนเข้าช่วงประกาศผลด้วยโชว์จากพระเอกหนุ่มมากความสามารถ พอร์ช-ศรัณย์พร้อมแฟชั่นโชว์ของผู้เข้าประกวดสมาร์ทบอย 2019 ซึ่งเต็มไปด้วยสปิริตความสดใสตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ทำให้ทั้งฮอลล์สดใสขึ้นมาทันที

เมื่อการประกาศรางวัลมาถึง ผู้ชนะตำแหน่ง ไทยซูเปอร์โมเดล 2019 ได้แก่ เจนนี่-ชยิสรา วัฒนะนาวิน โดยมี เฟิร์น-เกษรา วัฒนสังข์ ไทยซูเปอร์โมเดล 2018 เป็นผู้ส่งมอบตำแหน่ง และแสดงความยินดี ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง ไทยซูเปอร์โมเดล 2019 ได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท รถยนต์มิตซูบิชิ XPANDER รุ่น GT   และรางวัลจากผู้สนับสนุน ส่วนตำแหน่ง สมาร์ทบอย 2019 ได้แก่ แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลจากผู้สนับสนุน ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งยังได้โอกาสเซ็นสัญญาร่วมงานกับช่อง 7HD อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีรางวัลต่าง ๆ ที่มอบให้ผู้ประกวดตลอดการแข่งขัน ดังนี้ ตำแหน่ง DIGITAL’S CHOICE 2019 ได้แก่ บุตรี กัลย์จารึก ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาทและรางวัลจากผู้สนับสนุน  ตำแหน่ง PHOTOGENIC MODEL ได้แก่ อะราเบลล่า เกรโกรี่  รับเงินรางวัล 30,000 บาท และรางวัลจากผู้สนับสนุน ตำแหน่งพิเศษ ผิวสวยใส สุขภาพดี โดยบิโอเร ได้แก่ เมณิษา ชุมสายสกุล ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และ กิฟเซตจากบิโอเร โดยเกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาจากความสวยใสแบบไม่แต่งหน้า ผิวหน้าใส ดูสุขภาพดี เกลี้ยงเกลา และไม่มีสิว รอชมผลงานน้องๆกันได้นะคะ

The post “เจนนี่-ชยิสรา” และ “แทนตะวัน ทัดเดโอ มายอลิ แม็คจิโอลิ” โดดเด่น มั่นใจ คว้าตำแหน่ง ไทยซูเปอร์โมเดล 2019 และสมาร์ทบอย 2019 พร้อมก้าวสู่วงการแฟชั่น และบันเทิง appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นิพนธ์ รักศรีอักษร (กลาง) รองผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ สมฤดี จิตรจง (ที่ 3 จากขวา) รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน คิง เพาเวอร์ รางน้ำนครา ๒๕๖๒ “เขษมสงกรานต์” เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียมไทยอันดีงามอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของคนไทย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2562 โดยมี ศรมน อิงคตานุวัฒน์ อนัญญา อภิสิทธิ์ยะกุล และกัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ร่วมงาน ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เมื่อเร็ว ๆ นี้

บรรยายใต้ภาพ (จากซ้าย)

• นางแบบ
• อนัญญา อภิสิทธิ์ยะกุล พิธีกรชื่อดัง
• ศรมน อิงคตานุวํฒน์   รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Corporate Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
• นิพนธ์ รักศรีอักษร รองผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
• สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
• กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล นักแสดง
• นายแบบ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที ฝ่ายสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

• ศิลป์ศรุต บุญศิริ     02-677 8888 ต่อ 1510   sinsarut.boonsiri@kingpower.com
• อนัญญา บุญแท้ 02-677 8888 ต่อ 1512     ananya_b@kingpower.com

The post คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กรุงเทพมหานคร แถลงความพร้อมจัดงาน คิง เพาเวอร์ รางน้ำนครา ๒๕๖๒ “เขษมสงกรานต์” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ตามที่ บริษัท ซีเอซี จำกัด (C asean) จัดงาน Thailand Corporate Sustainability Symposium เวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำเพื่อ แก้ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 27-28 มีนาคม 2562 ณ C ASEAN อาคาร CW Tower ถนนรัชดาภิเษก โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารองค์ชั้นนำของเมืองไทย อาทิ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด มาร่วมเสวนาให้ความรู้เผยแพร่แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนสู่ปี 2030

ซึ่งในงานเสวนาครั้งนี้ว่าด้วยเรื่องที่ต้องการเน้นในงานด้านความยั่งยืน ณ ตอนนี้ความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ ซึ่งแน่นอนมุมของความยั่งยืนส่วนบุคคลย่อมแตกต่างจากบริษัทที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะลูกค้า ซัพพลายเออร์ หรือแม้กระทั่งพนักงานของบริษัทเอง ในวันนี้เราอยู่กับ CEO จาก 3 บริษัทใหญ่ ที่แม้จะอยู่ในธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือทุกบริษัทให้ความสำคัญและลงทุนอย่างจริงจังในเรื่องธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งดีเทลแต่ละโครงการที่แต่ละท่านนำมาพูดก็คือ

● ThaiBev เรื่องที่น่าสนใจอย่างมากคือความพยายามผลักดันด้านความร่วมมือ โดยรูปแบบที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ประชารัฐ และ C asean ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคม โดยคุณฐาปน พูดถึงรูปแบบความร่วมมือดังกล่าวและความเกี่ยวโยงกับงานด้านความยั่งยืน

● Banpu สำหรับบ้านปูเอง วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในระดับ Business Model โดยคุณชนินทร์ พูดถึงเรื่องนี้และยกตัวอย่างสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

● CP สำหรับการทำธุรกิจข้ามชาติ แน่นอนความแตกต่างในด้านทรัพยากรบุคคลย่อมส่งผลต่อรูปแบบการทำงานเพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์หลักที่องค์กรต้องการ โดยคุณศุภชัยพูดเรื่องความท้าทายซึ่งมีผลโดยตรงกับงานด้านความยั่งยืน รวมไปถึงรูปแบบการจัดการ

และจากสิ่งที่ทุกท่านได้พูดไป เห็นได้ชัดว่างานด้านความยั่งยืนเป็นงานที่มีการลงทุนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นกำลังเงิน กำลังคน เวลา รวมไปถึงทรัพยากรอื่นๆ ของบริษัท แล้วก็ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ลงทุนไปจะเห็นผลตอบแทนในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งในช่วงบ่ายได้พูดถึง rationale หรือ แนวคิดด้านการลงทุนที่แต่ละบริษัททำไปเพื่ออะไรและองค์กรจะได้อะไรจากโครงการด้านความยั่งยืน สิ่งที่องค์กรได้เรียนรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กร มีกระทบกับโครงสร้างองค์หรือไม่ มีการต่อต้านหรือมีการจัดการความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นอย่างไร และผลลัพธ์จากความเปลี่ยนแปลงนั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งการเสวนาครั้งนี้ สรุปคำถามหลักๆ 5 เรื่องเลยคือ

1. อะไรเป็นข้อโดดเด่นของการทำงานด้านการพัฒนาอย่างยังยืนขององค์กรของท่าน
2. การทุ่มเททางานด้านนี้ต้องมีการลงทุนมหาศาล ทั้งด้านกำลังเงิน กำลังคน เวลา รวมถึง ทรัพยากรอื่นๆ มีแนวคิดว่าบริษัททุ่มเทให้กับงานด้านนี้ เพราะอะไร และมุ่งหวังผลอะไร
3. จากการผลักดันเรื่องการพัฒนาอย่างยังยื่นมาหลายปี องค์กรของท่านได้เรียนรู้ หรือมีความเปลียนแปลงอะไรเกิดขึนบ้าง
4. การตอบรับของตลาด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ นักลงทุน หรือ stakeholders กลุ่มอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้างต่อการผลักดันด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร
5. ปี 2030 เป็นปีที่สหประชาชาติได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นปีที่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยังยืนหรือ UNSDGs จะเห็นผลสัมฤทธิในหลายๆด้าน องค์กรของท่านเองมีแนวทาง ในการผลักดันเรื่องนี้ต่อไปในอนาคตอย่างไร และมีเป้าหมายอะไรทีเป็นรูปธรรมหรือไม่ อย่างไร

นอกจากนี้ ในเสวนาครั้งนี้ยังมี พระพรหมบัณฑิต มาร่วมให้ความรู้ด้วย เกี่ยวกับศาสนากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งท่านพระครูได้เดินทางไปบรรยายเรื่องนี้ในงานระดับนานาชาติ หลายครั้ง เช่น
– เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ปัจจุบันครั้งที่จัดที่เวียตนามเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
– เป็นผู้แทนคณะสงฆ์ไทย บรรยายเรื่อง International Recognition of the Day of Vesak
(วิสาขบูชา วันสำคัญสากล สหประชาชาติ) ในกิจกรรมวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากล สหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
– ล่าสุดบรรยายเรื่อง “Interreligious Partnership for a Sustainable World (ความร่วมมือระหว่างศาสนาเพื่อโลกที่พัฒนาอย่างยั่งยืน)” ณ ห้องประชุมซินนอดใหม่ นครรัฐวาติกัน

โดยขอสรุปเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน ตามหลักคิดสำคัญในเรื่องนี้ขององค์กรสหประชาชาติก็คือว่า การพัฒนาไม่ควรตั้งเป้าหมายไว้ที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมาการพัฒนาทางเศรษฐกิจจนเจริญเติบโตมากกลับเป็นผลร้าย เพราะมันนำไปสู่การทำลายสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ผลของการพัฒนาไม่ยั่งยืน ดังนั้น การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องรวมเป้าหมายหลักสามประประการเข้าด้วยกัน คือ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ, การพัฒนาด้านสังคม และการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม

ซึ่งการพัฒนาทั้งสามด้านนี้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันจนไม่สามารถแยกจากกันได้ นั่นหมายความว่า การพัฒนาเศรษฐกิจต้องส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมธรรมชาติไว้ เพื่อส่งมอบให้อนุชนคนรุ่นต่อไป เมื่อทำอย่างนี้ได้จึงถือว่าเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ สำหรับงานวันที่สองยังเปิดเวทีให้กับตัวแทนจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการแบ่งปันประสบการณ์จริงของแต่ละองค์กร เพื่อเป็นประโยชน์และแนวทางให้กับองค์กรอื่นๆ ต่อไป ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรชั้นนำ เช่น Mitr Phol Group, Tesco Lotus, Airports of Thailand PCL (AOT), True Corporation, Siam Commercial Bank (SCB), Sodexo Thailand, SCG รวมถึงยังมีการเวิร์คช็อปเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างใกล้ชิดและลงลึกในรายละเอียดอีกด้วย

ภาพ : จตุพล กล้าศึก

The post เปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำ แก้ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการ “เมา ง่วง อย่าขับ ขี่ไปกลับสวมหมวกกันน็อค”ส่งต่อความห่วงใย สร้างการรับรู้ และสะท้อนถึงความสูญเสียที่มากกว่าการเสียชีวิตผ่านมุมมองของงานบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงเชิญชวนให้ประชาชน ส่งต่อความห่วงใยนี้แก่คนที่คุณรัก พร้อมปล่อยคาราวานรณรงค์แจกสติ๊กเกอร์ และหมวกกันน็อคแก่ประชาชนประชาชนบริเวณเส้นทางจราจรคับคั่ง

โดยมีคณะผู้บริหารมูลนิธิฯ แขกผู้มีเกียรติ และภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจรสํานักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จํากัดและบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  ร่วมขับเคลื่อนโครงการ พร้อมทั้งอาสาสมัคร และอาสาศิลปิน นำโดย คุณวินน์ วาทิต  โสภา ผู้ร่วมถ่ายทอดโครงการผ่านเพลงบทเพลง พร้อมด้วย        คุณบี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ และคุณทิน โชคกมลกิจ  ร่วมสร้างสีสัน และนำสื่อประชาสัมพันธ์ออกคาราวานรณรงค์ ณ ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพลับพลาไชย

 คุณวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 109 ปีที่ผ่านมา มา  มูลนิธิฯ ได้พบเห็นการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากสถิติที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ล่าสุดข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรม ความปลอดภัยทางถนน โดย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด  ปี 2561 ประเทศไทยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงถึง 1,035,801 ราย เสียชีวิต 16,166 ราย หรือหากจะพิจารณาถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลัง 3 ปี ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พบว่า มีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 6% และพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดความสูญเสียจากอุบัติเหตุมาจากการไม่สวมหมวกกันน็อค 14.08%
ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจึงขอเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องถนน  ด้วยการจัดโครงการประชาสัมพันธ์รณรงค์การป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้น  ภายใต้ชื่อโครงการ “เมา ง่วง อย่าขับ ขี่ไปกลับสวมหมวกกันน็อค”รวมพลังกับภาคีเครือข่าย หน่วยงานในเครือของมูลนิธิฯ ชุมชน และสถานศึกษา ส่งความห่วงใย สร้างความเข้าใจ จิตสำนึก สร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความปลอดภัยในการขับขี่ เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และสร้างให้เกิดพฤติกรรมการรักและห่วงใยตนเอง ครอบครัว และสังคม เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนก่อนเกิดการสูญเสีย

ทั้งนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทำสื่อเพื่อฉีกกระแสการรณรงค์ เจาะกลุ่มเยาวชนวัยหนุ่มสาว ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยที่มีความเสี่ยงในด้านการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอันดับต้นๆ โดยเปิดตัวคลิปสั้นผ่าน Social Media  ถ่ายทอดความห่วงใย ผ่านคนบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  นำโดย คุณวินน์ วาทิต โสภา อาสาศิลปิน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฯ ในรูปแบบเพลงแร็ป โดยได้เผยแพร่พร้อมกันกับงานแถลงข่าวแล้วทุกช่องทาง Social Media
ของมูลนิธิฯ

นอกจากนี้ยังได้มีจัดทำสติ๊กเกอร์รณรงค์ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั่วไป โดยทุกท่านสามารถร่วมส่งต่อความห่วงใย สร้างความตระหนักแก่คนที่คุณรักได้ เพียงแชร์ให้ชม แชร์ให้เห็น และร่วมกันเป็นกระบอกเสียง เพราะเราเชื่อว่าอุบัติเหตุป้องกันก่อนเกิดเหตุได้ ช่วยเหลือไวด้วยปลายนิ้วคุณ โดยท่านสามารถชมและแชร์พร้อมติด Hashtag รณรงค์ ได้ที่
Facebook Fanpage: atpohtecktung  Twitter: @Pohtecktung และ Website: pohtecktung.org

#เมาง่วงอย่าขับ #ขี่ไปกลับสวมหมวกกันน็อค#ไม่รักก็คงไม่ห่วงอย่างนี้ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง“ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

The post สงกรานต์นี้ “เมา ง่วง อย่าขับ ขี่ไปกลับสวมหมวกกันน็อค” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

นพ.วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์
กุมารแพทย์โรคระบบประสาท

• “สฟิงโกไมอีลิน”สารอาหารที่พบมากในนมแม่นม ผลิตภัณฑ์นมช่วยในการสร้างปลอกไมอีลินซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมอง
• การเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (brain connection) ซึ่งคือกลไกที่สำคัญที่สุดในการทำงานของสมองซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วการทำงานของสมองจึงจะมีประสิทธิภาพหรือเปรียบเสมือนกับการใช้อินเทอร์เน็ต5G
• การเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณของสมองต้องอาศัยการสร้างปลอกไมอีลิน เริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์และสร้างอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปีแรกหลังคลอด และถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

คุณพ่อคุณแม่รู้มั้ยว่า…..ความสามารถของลูกรักของคุณนั้นไม่ว่าจะเป็นการรับรู้ การควบคุมการเคลื่อนไหว หรือการคิดวิเคราะห์และการวางแผนเมื่อเติบโตขึ้นไปนั้นล้วนเกิดขึ้นจากการทำงานของสมอง แต่สมองเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่สามารถที่จะสร้างสิ่งมหัศจรรย์เหล่านี้ได้โดยลำพัง แต่ต้องอาศัยการเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (brain connection) ซึ่งคือกลไกที่สำคัญที่สุดในการทำงานของสมอง ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำงานของสมองจึงจะมีประสิทธิภาพ หรือเปรียบเสมือนกับการใช้อินเทอร์เน็ต 5G เพราะสามารถส่งสัญญาณได้เร็วกว่า จึงมีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง และนี่คือความลับของสมองที่สามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นการคลานเดินการพูดการวิ่งเล่นหรือหัวเราะร้องไห้ของลูกรักนั้น

เป็นเพราะการส่งสัญญาณหากันด้วยความรวดเร็วของสมองแต่ละส่วนนั่นเอง โดยการเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณของสมองต้องอาศัยการสร้างไมอีลิน (myelin) ซึ่งพบมากในช่วง 2 ปีแรกของชีวิตและมีความสัมพันธ์กับพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยนี้ที่จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยวัตถุดิบในการสร้างไมอีลินจะเป็นสารอาหารกลุ่มไขมัน และไขมันที่มีความจำเพาะต่อไมอีลินโดยเฉพาะ นั่นคือ“สฟิงโกไมอีลิน (sphingomyelin)” นั่นเอง

“สฟิงโกไมอีลิน”หนึ่งในสารอาหารสำคัญในการสร้างไมอีลิน การได้รับสฟิงโกไมอีลินในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญต่อการสร้างไมอีลินในสมองซึ่งช่วยให้การทำงานของสมองเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยสฟิงโกไมอีลินจะพบได้มากในนมแม่ และผลิตภัณฑ์นม เช่น ครีม ชีส ดังนั้นทารกจึงควรได้รับนมแม่อย่างเต็มที่ เพราะนมแม่เป็นแหล่งของไขมันชั้นดี ซึ่งรวมถึงสฟิงโกไมอีลินด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าทารกที่ได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนจะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้นและมีความสัมพันธ์กับผลการประเมินการเรียนรู้ที่ดีขึ้นอีกด้วย

โดยสรุป การพัฒนาของสมองเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในครรภ์มารดาไปจนถึง2 ปีแรก การส่งเสริมการพัฒนาของสมองสามารถกระทำได้โดยการให้สารอาหารอย่างครบถ้วน และให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของสมองยังต้องอาศัยการเชื่อมต่อสัญญาณประสาทที่มีความรวดเร็ว ซึ่งการสร้างจะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาท เปรียบเสมือนการสร้างทางด่วนให้กับสมอง โดยสารอาหารในกลุ่มไขมัน โดยเฉพาะ“สฟิงโกไมอีลิน” จะเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างไมอีลินในสมอง

ดังนั้นจะเห็นได้ว่านอกเหนือจากพันธุกรรมและการเลี้ยงดูแล้วจึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ตระหนักถึงโภชนาการสำหรับลูกรักเพื่อพัฒนาการทั้งทางร่ายกายและสมองให้เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงวัย

The post ไขความลับพัฒนาสมองลูกรักด้วย “สฟิงโกไมอีลิน” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

 สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ได้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล รายการ “VICHAI SRIVADDHANAPRABHA TROPHY” เพื่อระลึกถึง คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งและอดีตนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ซึ่งการแข่งขันรายการนี้ได้รับเกียรติจาก เจ้าชายอับดุล มาทีน โบลเกียห์ (HRH Prince Abdul Mateen Bolkiah) เจ้าหญิงอาเซมะห์ นีมาตุล โบลเกียห์ (HRH Princess Azemah Ni’matul Bolkiah) เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ (HRH Prince Jefri Bolkiah)  และเจ้าชายตวนกู อิสเมล์ สุลต่าน อิบราฮิม (HRH Tunku Ismail Ibni Sultan Ibrahim) และนักกีฬาขี่ม้าโปโลจากหลากหลายประเทศ พร้อมใจกันลงสนามในนัดสานสัมพันธ์ และร่วมครองถ้วยร่วมกัน โดยมี เอมอร ศรีวัฒนประภา (กลาง) ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ขึ้นมอบถ้วยรางวัลให้แก่ทีมนักกีฬาขี่ม้าโปโลทั้ง 8 ทีม ณ สนาม วีเอส สปอร์ตคลับ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

The post นักกีฬาขี่ม้าโปโลจากหลากหลายประเทศ ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขัน นัดสานสัมพันธ์ รายการ “VICHAI SRIVADDHANAPRABHA TROPHY” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

“อวดไทยให้โลกได้เห็น” คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย อวดโฉมคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าใหม่ล่าสุด Ready-to-wear ประจำสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ภายใต้ชื่อ ‘Thai Natural Dye Collection’

โดยคอลเล็คชั่นนี้สะท้อนความงดงามอันทรงคุณค่าของการย้อมสีธรรมชาติ และการทอผ้าแบบพื้นถิ่นภาคเหนือที่เกิดจากสามภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยแท้ ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน, การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่30 มีนาคมเป็นต้นไป ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต, คิง เพาเวอร์ มหานคร และภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา

สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ใช้ชื่อว่า “Thai Natural Dye Collection” ซึ่งได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Northern Tha iGlory เพื่อเชิดชูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และคุณค่าอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นไทยทางภาคเหนือที่เกิดจากฝีมือของชุมชน 3 แห่ง ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน, การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เกิดเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า กระเป๋า ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ สไตล์แฟชั่นที่ผสมความเป็นไทยแท้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของ INDIGO สองคอลเลกชั่นที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์และทีมดีไซเนอร์แบรนด์เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทยได้ร่วมพัฒนาคอลเลกชั่นใหม่Thai Natural Dyeกับสามชุมชนทางภาคเหนือของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง และภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายยุคสมัยเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดทั้งไทยต่างประเทศ และเทรนด์แฟชั่นทันสมัย ใส่ได้ทุกโอกาสสำหรับความพิเศษของคอลเลกชั่นนี้ คือ การนำเส้นใยย้อมสีธรรมชาติมาทอจกแบบกลับหัวเป็นครั้งแรก! จนได้เป็นลายหน้าจิ้งจอก ซึ่งเป็นโลโกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เรียกได้ว่า เป็นการนำเสนอความงดงาม และเสน่ห์ของผ้าไทยในรูปแบบสากลได้อย่างลงตัว

“ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ เน้นการให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าพื้นถิ่นให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก สะท้อนขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตอันดีงามดั้งเดิม ความเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นภาคเหนือ และศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล”

จุดเริ่มต้นของคอลเลกชั่นใหม่นี้ ทางทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และดีไซเนอร์ แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทยได้ร่วมกับชุมชนตำบลตะเคียนปม จังหวัดลำพูนเพื่อสานต่อเสน่ห์ของการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ภูมิปัญญาที่ชาวบ้านตะเคียนปมสั่งสม และสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีดีเอ็นเอของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นโจทย์สำคัญ จึงเป็นที่มาของสีหลักใหม่ 4 สี ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผ่านกระบวนการ‘ย้อมร้อน’ ที่ใช้ความร้อนในการดึงสีออกมาจากต้นพืช หรือ ‘ย้อมเย็น’ การจุ่มน้ำพร้อมพืชเพื่อดูดซับสีที่ออกมาตามธรรมชาติได้แก่ สีฟ้า-น้ำเงินจากต้นฮ่อม, สีน้ำตาล-เทา จากยางในผลมะเกลือ, สีส้ม จากเมล็ดคำแสด และสีเหลืองจากใบเพกาโดยเส้นใยที่ย้อมได้มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นสีธรรมชาติ สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี

จากนั้นจะนำเส้นใยย้อมสีจากลำพูนมาทอแบบวิถีของจกแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึงมีจุดกำเนิดมาจากฝีมือเชื้อสายพญาเขื่อนแก้ว เมืองเชียงแสนเมื่อ 200 กว่าปี ความโดดเด่นอยู่ที่ลวดลายบนผืนผ้าที่เพิ่มเส้นด้ายเป็นช่วงๆ บนหน้ากว้างของผืนผ้าโดยใช้ไม้ขนเม่นหรือนิ้วมือยกเส้นด้ายแล้วพุ่งเส้นด้ายสีพิเศษเพื่อสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และงดงามแตกต่างกันไป ปัจจุบัน ผ้าซิ่นตีนจกเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรม และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทั้งหมด 16 ลาย สำหรับคอลเลกชั่นนี้ ใช้ลายดอกจัน และลายโคมหัวหมอน ซึ่งเป็นลายที่ใช้ทอเฉพาะหัวหมอนที่แม่แจ่ม รวมถึงลายทอตัวหนังสือโลโก้แบรนด์ LCFC ที่เป็นเกิดจากการทอจกกลับหัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของชุมชนที่ใช้กรรมวิธีการทอแบบใหม่ เพื่อให้ได้ลายใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคิง เพาเวอร์

ความมหัศจรรย์ของคอลเลกชั่นThai Natural Dyeอยู่ที่โลโก ‘หน้าจิ้งจอก’ ที่เกิดขึ้นจากการทอจกแบบกลับหัวซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทำให้สามารถมองเห็นลายจากผ้าทั้งสองด้านอย่างสวยงามเพิ่มลาย คือ ลายทอจกดอกจัน ลายโคมและลายทอหน้าหมอน ซึ่งเป็นลายที่แตกต่างจากลายบนผ้าซิ่นทั่วไป และเหมาะจะสวมบนศีรษะ จะไม่เป็นลายบนผ้าซิ่นที่ใช้นุ่งบริเวณส่วนล่างใกล้กับปลายเท้า เกิดเป็นลูกเล่น และดีไซน์แปลกใหม่ โดยเน้นการตัดเย็บที่ทันสมัย และใช้ได้ทุกวัน

คอลเล็คชั่น Thai Natural Dye มีสินค้าให้เลือกหลากหลายแบบ โดยแบ่งออกเป็น

• เสื้อผ้ายืดมัดย้อมคอกลมแขนสั้น 3 แบบราคา 1,250 บาท
• กระเป๋าTote มัดย้อม พิมพ์ลายหน้าจิ้งจอก ราคา 1,250 บาท
• หมวกผ้าทอตีนจก 2 แบบ ราคา 1,350 บาท
• หมวกมัดย้อมสี ราคา 1,100 บาท

Thai Natural Dye Collection วางจำหน่ายครั้งแรกในวันที 30 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป ณเดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร ภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินภูเก็ตและสนามบินอู่ตะเภา

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าเลือกชม และช้อปสินค้าในคอลเลกชั่น Thai Natural Dye ได้ที่ https://www.kingpower.com/brand/leicester-city-football-club

The post “อวดไทยให้โลกได้เห็น คิง เพาเวอร์ เผยโฉมคอลเล็คชั่นล่าสุดของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

อยากให้ลูกเก่ง ฉลาด คือสุดยอดความปรารถนาของคนเป็นพ่อแม่…ยิ่งยุคนี้แต่ละครอบครัวมีลูกกันน้อยลง จึงเลี้ยงลูกด้วยความทุ่มเทและพัฒนาสมองให้ลูกรักกันเต็มที่ด้วยวิธีต่างๆ  เพื่อให้ลูกมีสติปัญญาที่ดีและประสบความสำเร็จในอนาคต แต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่รู้ว่ามีวิธีเสริมสร้างสมองที่ดีให้ลูกอย่างถูกต้องอีกอย่างหนึ่งก็คือการให้สมองของลูกทำงานเชื่อมโยงสื่อสารระหว่างกัน หรือมี Brain Connection ที่รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่สุดต่อการพัฒนาลูกรักให้ฉลาดคิดและใช้ชีวิตทันโลกได้จริง  เมื่อแพรวได้มีโอกาสฟังคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสมองมาเผยเคล็ดลับใหม่ ! เราจึงพลาดไม่ได้ที่จะนำมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ

การทำงานเชื่อมโยงกันของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (Brain Connection) กุญแจสู่สติปัญญา และความเก่งของลูก

โดยมี ผศ. นพ. วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์ กุมารแพทย์โรคระบบประสาท อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ ม. มหิดล เผยความรู้อันน่าทึ่งของสมองเด็ก ที่มีการพัฒนาโครงสร้างและการทำงานที่รวดเร็วมากที่สุดตั้งแต่ในครรภ์จนถึงช่วง 2-3 ขวบปีแรก โดยสมองจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ ต้องทำงานกันเป็นทีม มีการสื่อสารส่งสัญญาณระหว่างสมองแต่ละส่วนที่รวดเร็ว จึงจะทำให้กระบวนการทำงานต่างๆ ในการคิด วิเคราะห์ จดจำหรือแก้ปัญหา ประสบความสำเร็จ  ไม่ใช่แค่การทำงานของสมองเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้นเหมือนที่เราเคยเชื่อกันมาตลอด ดังนั้นการเชื่อมโยงสื่อสารระหว่างสมอง หรือ Brain Connection ที่รวดเร็วของลูกนั้น จึงเป็นกลไกสำคัญที่สุดต่อความฉลาด การเรียนรู้ที่ดี และพัฒนาการที่ดีของสมองลูกรัก

เทคโนโลยี MRI ภาพสแกนสมอง ย้ำว่าเรื่องง่ายๆ สมองก็ทำงานหลายส่วน

ลืมความเชื่อเดิมๆ ว่ายกมือซ้าย สมองซีกขวาทำงาน คิดวิชาการใช้สมองซีกซ้ายกันไปได้เลย เพราะเมื่ออาจารย์หมอ ดร. นพ. วิทยา สังขรัตน์  อาจารย์ประจำภาควิชารังสีวิทยา และศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (ไอแมค AIMC) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แสดงให้ดูผลการตรวจเวลาสมองทำงาน โดยเครื่องตรวจสมอง MRI สุดทันสมัย ทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า  แค่กระดิกนิ้วซ้ายนิ้วเดียว สมองยังทำงานพร้อมกันหลายๆ ส่วน  รวมถึงเห็นภาพสมองกำลังทำงานพร้อมกันมากมาย ๆ ทั้ง ๆ ที่คนนั้นแค่นอนเฉย ๆ ดูคนฉีกกระดาษ แต่สมองส่วนควบคุมกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทำงานตามที่เห็น ยิ่งไปกว่านั้นสามารถตรวจหาความสมบูรณ์และเครือข่ายของใยสมอง ซึ่งเชื่อมต่อโยงใยกันอย่างเป็นระบบที่ซับซ้อน อนึ่งใยสมองมีไมอีลิน (Myelin) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ  

นอกจากเราจะได้รู้แล้วว่าสมองทำงานพร้อมกันหลายส่วนจึงทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่เรายังรู้อีกด้วยว่า สมองส่งสัญญาณหากันได้รวดเร็ว ต้องใช้ตัวช่วย  เพราะการสื่อสารในวงจรประสาทจำเป็นต้องอาศัย ไมอีลิน ที่จะช่วยส่งสัญญาณกระแสประสาทให้เป็นไปแบบก้าวกระโดด เปรียบเสมือนมีทางด่วนในสมองนั่นเองค่ะ ซึ่งเจ้าไมอีลินนี้ จะสร้างได้รวดเร็วและพบมากตั้งแต่ที่คุณแม่ตั้งครรภ์จนถึงช่วง 2 ปีแรกของชีวิต ตามที่คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกวัยนี้มีพัฒนาการที่ก้าวหน้า ทำอะไรเก่งขึ้นมาก  สาเหตุจากสมองที่สื่อสารได้รวดเร็ว ฉะนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นเวลาทองที่คุณแม่ต้องช่วยสร้างไมอีลิน ด้วยการให้ลูกกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างไมอีลิน คืออาหารกลุ่มไขมัน

โดยเฉพาะ สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin) และสารอาหารอื่นๆให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงการเรียนรู้ และการเลี้ยงดูอย่างอบอุ่นใกล้ชิดอีกด้วย

สารอาหารสำคัญในนมแม่ ช่วยลูกสมองไว ร่างกายแข็งแรง

เพราะนมแม่เป็นแหล่งของไขมันชั้นดีที่ช่วยพัฒนาสมอง รวมถึงมี สฟิงโกไมอีลิน  คุณแม่จึงควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะมีงานวิจัยพบว่าทารกที่กินนมแม่อย่างน้อย 3 เดือนจะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สฟิงโกไมอีลินยังมีมากใน ไข่ และผลิตภัณฑ์นม เช่น ชีส ครีม และนม

คุณแม่รู้อย่างนี้แล้ว…รีบส่งเสริมและเลือกอาหาร เพื่อพัฒนาสมองลูกรักให้ทำงานรวดเร็ว เพื่ออนาคตที่สดใสของคุณหนูกันตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ #สฟิงโกไมอีลิน #BrainConnection

The post แพรวสร้างลูกรักให้ฉลาดได้ไม่ยาก…เมื่อสมองลูกมีการเชื่อมโยงที่ดี appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

คาสิโอ  เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ นาฬิกา EDIFICE (เอดิฟิส) ในประเทศไทย “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์” (Mr. Alexander Albon) นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน (FORMULA 1) สัญชาติไทยจากทีม Scuderia Toro Rosso (สคูเดอเรีย  โทโร รอสโซ่) พร้อมเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด 2 คอลเลคชั่น ได้แก่ “EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019” (เอดิฟิส สคูเดอเรีย โทโร รอสโซ่ ลิมิเต็ด อิดิชั่น 2019) และ “EDIFICE Countdown Bezel Series” (เอดิฟิส เคาน์ดาวน์ เบเซล ซีรี่ส์)

โดยคุณโคจิ ชินโจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า “คาสิโอแนะนำนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด 2 คอลเลคชั่น ได้แก่ “EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019” และ “EDIFICE Countdown Bezel Series” จำนวน 6 รุ่น เป็นนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟ ภายใต้แนวคิดความเร็วและความชาญฉลาด (SPEED & INTELILIGENCE) ที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำจากการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ผสานดีไซน์โฉบเฉี่ยว ควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำหน้า โดย EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019 ได้ออกแบบร่วมกับทีม Scuderia Toro Rosso ทีมแข่งรถฟอร์มูล่าระดับโลก และได้รับเกียรติจากคุณอเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งรถฟอร์มูล่า วัน สัญชาติไทย มาร่วมเป็น EDIFICE แบรนด์แอมบาสเดอร์ในประเทศไทย เพื่อร่วมตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

สัมผัสนาฬิกา “EDIFICE Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019” คอลเลคชั่นที่ผสานดีไซน์โฉบเฉี่ยวควบคู่กับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย โดยออกแบบร่วมกับทีม Scuderia Toro Rosso ทีมแข่งรถฟอร์มูล่า วัน ระดับโลกมาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ ECB-900TR, EQS-920TR และ EFR-564TR ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,900 – 12,900 บาท วางจำหน่ายกลางเดือนเมษายน ศกนี้ และ “EDIFICE Countdown Bezel Series” นาฬิกาที่มาพร้อมกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered) และหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์คริสตัลซึ่งมีความทนทานต่อการใช้งาน มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น EFS-S550DB (สายสเตนเลส) รุ่น EFS-S550BL (สายผ้าไนลอน) และรุ่น EFS-S550PB (สายเรซิน) ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,000 – 7,500 บาท จะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน

The post คาสิโอ เปิดตัว นาฬิกา EDIFICE รุ่นใหม่ล่าสุด appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ที่3จากขวา) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารบริษัทฯ เกษสุดา ไรวา ประธานกรรมการบริหาร (ที่3จากซ้าย) วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซ้ายสุด) กำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน (ขวาสุด) และมณีสุดา ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร (ที่2จากซ้าย) จัดกิจกรรมเวิร์กชอป “ข้าวแช่ เอสแอนด์พี มีดีที่เครื่องเคียง” เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ ‘ข้าวแช่’ เมนูคลายร้อนตำรับไทยโบราณให้เป็นที่รู้จักแก่คนรุ่นใหม่ ด้วยข้าวแช่เอสแอนด์พี มีดีที่เครื่องเคียงทั้งความพิถีพิถันและคุณประโยชน์ที่หลากหลาย โดยมี  ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร (ที่2จากขวา) ร่วมพูดคุยและโชว์เสน่ห์ปลายจวัก ณ ศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ศูนย์การเรียน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

The post เอส แอนด์ พี ชวนคนรุ่นใหม่คลายร้อนด้วยตำรับโบราณ “ข้าวแช่ เอสแอนด์พี มีดีที่เครื่องเคียง” appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ได้เวลาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงกันแล้ว กับเทศกาลดนตรีโคตรใหญ่ใจกลางสยามที่เข้าใจและเอาใจวัยรุ่นที่สุด กับ Chang Music Connection Presents “What The Fest!” Music Festival 2” (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “วอท เดอะ เฟส! มิวสิค เฟสติวัล 2”) เฟสอะร้ายยย โคดวัยรุ่น! จัดขึ้น 2 วันเต็มๆ วันที่ 29-30 มิถุนายน 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 1, 2, 3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดโดย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

งานนี้ได้อัดแน่นไปด้วยไลฟ์สไตล์ฮอตฮิตโดนใจวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินสุดฮอต เพลงสุดฮิต และกิจกรรมโคตรฮิตอื่นๆอีกเพียบที่จัดขึ้นเพื่อวัยรุ่นโดยเฉพาะ

วอทเดอะเฟสมิวสิคเฟสติวัล 2 จัดหนักจัดเต็มด้วยไลน์อัพศิลปินเบอร์ใหญ่โคตรฮิตกันแบบจุกๆ มากกว่า 30 ศิลปิน ทั้งป็อป ร็อก ฮิปฮอป และอินดี้ ไม่ว่าจะเป็น เดอะ ทอยส์, ค็อกเทล, โอ๊ต ปราโมทย์, ป๊อบ ปองกูล, เป๊ก ผลิตโชค,ออแกนิค x เลซี่ล็อกซี่ x ไฮฮอต, โพลีแคท, ยัวร์บอยทีเจ, โปเตโต้, อะตอม ชนกันต์, ไทเทเนี่ยม, ทเว้นตี้ไฟว์เอาเออร์ส, บิ๊กแอส, โลโมโซนิก, ทูพี เซาท์ไซด์, หนุ่ม กะลา, เบดรูม ออดิโอ, เก็ตสึโนวา, แสตมป์ อภิวัชร์, พาราด็อกซ์ และ สล็อตแมชชีน

อีกอย่างที่น่าดูคือวงอินดี้สุดเจ๋งอีกเพียบที่จะมาเล่นสดๆ บนเวทีมินิ สเตจ อาทิ เบ้นท์บีนทาวน์, จิ๊บเดอะซีบร้า,    โคโคนัทซันเดย์, ซีโอโก, เดอะ ปีศาจแบนด์ & สานฝัน, คล็อกเวิร์ค โมชั่นเลส, เดอะแพชชั่นออฟแอนนา, ซี, บลูส์เทป, สตาร์บ็อกซ์, เอเวอร์โรส, แดเนียล ดิษยะศริน และ ทวนไทยแลนด์

นอกจากดนตรีแล้ววอทเดอะเฟสมิวสิคเฟสติวัล 2 ยังมีความฮิตที่โดนใจวัยรุ่นด้วยโซนกิจกรรมมากมายที่ได้ผสมผสานเพลงฮิตและไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวผ่านดิสเพลย์เพลงฮิตที่เตรียมไว้ให้วัยรุ่นได้ถ่ายรูปกันสุดปังเพื่ออัพขึ้นโซเชียลกันตามสะดวก ทั้ง โซนเกมส์ โซนดูดวง โซนถ่ายรูป และโซนร้านค้า พูดเลยว่าจะต้องโดนใจวัยรุ่นอย่างแท้ทรู

พิเศษกันสุดๆ สำหรับวัยรุ่นทุกคนที่ซื้อบัตรวีไอพีรับไปเลยกับสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น FAST LANE (ฟาสต์เลน) ลงทะเบียนเข้างานไวไม่ต้องต่อคิวยาว เข้าใกล้ศิลปินได้เร็วกว่า, FRONT ROW (ฟรอนต์โรว์) โซนรับชมด้านหน้าเวที เข้า-ออกสุดสะดวก, GO ON STAGE (โกออนสเตจ) โซนยืนดูโชว์สุดพิเศษบนเวทีแบบใกล้ที่สุด, LUCKY FAN (ลัคกี้แฟน) ลุ้นถ่ายภาพใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรดหลังเวที ที่สำคัญที่สุดงานนี้วัยรุ่นสามารถเดินทางสะดวก แถมสถานที่จัดงานแอร์เย็นสบาย รวมถึงมีห้องน้ำเยอะและสะอาดสุดๆ จึงมั่นใจได้ว่านี่แหละคือเทศกาลดนตรีที่วัยรุ่นไทยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ขอย้ำว่า Chang Music Connection Presents “What The Fest!” Music Festival 2” (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “วอท เดอะ เฟส! มิวสิค เฟสติวัล 2”) เฟสอะร้ายยย โคดวัยรุ่น! คือเทศกาลดนตรีวัยรุ่นที่ใหญ่ที่สุดใจกลางสยามที่วัยรุ่นทุกคนไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เตรียมตัวมาสนุกกันให้สุดฟินกันได้แบบ 2 วันเต็มๆ ในวันที่ 29-30 มิถุนายน 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 1, 2, 3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยเปิดจำหน่ายบัตร Early Bird ราคาเพียง 1,600 บาท (จากราคาปกติ 2,500 บาท) ในวันที่ 8-10 พฤษภาคมนี้ เพียง 3 วันเท่านั้น!!! ซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ www.allticket.com และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB : WhatTheFestThai

The post What The Fest! Music Festival 2 เทศกาลดนตรีโคตรวัยรุ่นที่ใหญ่ที่สุดใจกลางสยาม appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

อานตี้ แอนส์ ผู้นำตลาดซอฟท์เพรทเซลในประเทศไทย บริหารงานโดย บจก. เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ภายใต้ธีม “Freshly Baked” แนวคิดใหม่ล่าสุด ให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยกับทุกเมนู สร้างสรรค์ ที่ดีและอร่อยที่สุด พร้อมรับประกันความสดใหม่ของเพรทเซลภายใน 30 นาที ขอต้อนรับซัมเมอร์อย่างจุใจเต็มอิ่ม ที่ยกขบวนเสิร์ฟ 3 เมนูใหม่ ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว

เริ่มต้นที่ เมนูสุดฮิตแห่งปี “Salted Egg & Cheese Lava Pretzel POP” เพรทเซลสอดไส้ชีสลาวาไข่เค็ม ไม่ลองยังไงไหว ครั้งแรกกับซอสไข่เค็มเข้มข้น และ Cheddar Cheese Sauce ที่มารวมกันเป็นลาวาอยู่ด้านในแป้งเพรทเซลสูตรเฉพาะจาก อานตี้ แอนส์ คลุกเคล้าด้วย Parmesan Cheese และ Crumb blend Cheese ท๊อปด้านบนด้วย Mozzarella Cheese เพิ่มความกลมกล่อมด้วย BBQ Seasoning อร่อยเข้มแบบนี้ เริ่มต้นเพียง 49 บาท (2 ลูก) หรือจะเลือกอร่อยเข้มเต็มอิ่ม 4 ลูก เพียง 85 บาท (ปกติกล่องละ 100 บาท) สมาชิก CRG Gift Card เพียง 72 บาท หรือเลือกอร่อยเป็น set

Set  A : Salted Egg&Cheese Lava Pretzel POP + Coke 16 oz. ราคา 106 บาท

Set  B : Salted Egg&Cheese Lava Pretzel POP + Lemonade 16 oz. ราคา 120 บาท

Set  C : Salted Egg&Cheese Lava Pretzel POP + Almond Stix + Lemonade 22 oz. ราคา 170 บาท

มาเอาใจสายหวานในช่วงซัมเมอร์นี้ ไปกับ “Lemon Cream Cheese Almond Pretzel Nuggets” เพรทเซลรูปแบบกะทัดรัดขนาดพอดีคำ ทานง่าย อร่อยจบเน้นๆในคำเดียว สอดไส้ครีมชีส  เลมอนเข้มข้นเปรี้ยวจี๊ด ซี๊ดโดนใจ ด้านนอกคลุกเคล้าด้วยอัลมอนด์ หอม หวาน กรุบ กรอบ ทานแล้วเข้ากั้น เข้ากัน อย่างลงตัว เต็มอิ่มจุใจ 16 ชิ้นใน 1 กล่อง  ราคาเพียง 59 บาท หรือจะเลือกอร่อยเป็น set

• ราคา 99 บาท   : Lemon Cream Cheese Almond Pretzel Nuggets + Lemonade 16 oz.
• ราคา 129 บาท : Lemon Cream Cheese Almond Pretzel Nuggets + Almond Pretzel + Coke 22 oz.

เมนูปิดท้าย พูดถึงซัมเมอร์ทั้งที อานตี้ แอนส์ขอชวนคุณมาสดชื่น คลายร้อน แบบสุดๆไปกับ เครื่องดื่มใหม่มีให้เลือก 2 แบบ ทั้งแบบเย็นและแบบปั่นเริ่มต้นด้วย “Iced Mango Lemonade” ที่มีส่วนผสมของ Mango Jelly, น้ำ Mango เข้มข้น และ Lemonade สูตรเฉพาะจาก อานตี้ แอนส์ ดื่มปุ๊ป สดชื่นปั๊ป มีให้เลือกอร่อย 2 ขนาด ในราคาเริ่มต้นเพียง แก้วละ 55 บาท ตามต่อมาด้วย “Blended Mango Lemonade” อร่อยสดชื่น ได้รสมะม่วงน้ำดอกไม้เน้นๆ ผสานเข้ากันกับ Mango Soft Serve และ Lemonade เปรี้ยว หวาน ลงตัวสุดๆและปิดท้ายความสดชื่นด้วยการเพิ่ม Mango Topping ลงไป เรียกได้ว่า จุใจเน้นๆแบบสุดๆไปเลย ในราคาเพียง แก้วละ 79 บาท หรือหากยังไม่จุใจ สามารถเติมความพิเศษ อร่อยเคี้ยวหนึบกับ Gummy Pretzel : Mix Fruit Flavor กัมมี่รูปแบบเพรทเซล รสผลไม้รวมมีทั้ง Blue caracao, Strawberry และ Apple ให้คุณได้สดชื่นและสนุกเคี้ยว หนึบ หนึบ ไปกับกัมมี่ เพรทเซล สั่งเพิ่มเพียง 10 บาท เท่านั้น หรือเลือกอร่อยเป็น Set

• Fresh Up Set 1 : Iced Mango Lemonade 16/22 oz. + Almond Pretzel ขนาด 16 oz. ราคา 95 บาท สมาชิก 90 บาท / ขนาด 22 oz. ราคา 105 บาท สมาชิก 99 บาท (เพิ่ม Gummy Pretzel เพียง 10 บาท)
• Fresh Up Set 2 : Blended  Mango Lemonade 16 oz. +Lemon Cream Cheese Almond Pretzel Nuggets ราคา 135 บาท สมาชิก 122 บาท (เพิ่ม Gummy Pretzel เพียง 10 บาท)

The post ซัมเมอร์นี้ “อานตี้ แอนส์” เล่นใหญ่ เปิดตัว 3 ความอร่อยใหม่ เต็มอิ่มครบทุกรสชาติ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เปิดตัวโรงเรียนแห่งใหม่ และคอร์สการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ ดึงศักยภาพมุ่งสร้างเชฟชั้นนำที่มาพร้อมทักษะการบริหารจัดการ

มร. อังเดร เจ คอยน์โทร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล บินตรงจากฝรั่งเศสสู่ไทยเพื่อร่วมกับ นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ในการฉลองงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หลังทุ่มทุนกว่า 300 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ของชั้น 17-19 อาคาร เซนเวิลด์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้า  เซนทรัล เวิลด์ ถนนราชดำริ เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารที่ครบครันและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค

“ด้วยโรงเรียน ที่เปิดสอนกว่า 35 แห่งทั่วโลก เรามีความยินดีที่กลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง เพื่อเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจการค้า ทำเลยุทธศาสตร์แห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญให้นักเรียนเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทั้งจากร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จากประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ระดับ ประเทศ” มร. คอยน์โทรกล่าว

เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แห่งใหม่ ได้คงจุดเด่นของโรงเรียนเอาไว้ ทั้งในเรื่องการตกแต่งโรงเรียน การวางแผนผังห้องเรียนและห้องปฏิบัติการครัว โดยความแตกต่างที่สำคัญคือสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์อันทันสมัย ที่การันตรีได้ว่านักเรียนทุกคนจะได้เริ่มต้นเส้นทางในอาชีพทำอาหารด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด ซึ่งนอกจากสภาพแวดล้อมที่สวยงามแล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังคงเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมการทำอาหาร

มร. คอยน์โทร กล่าวว่า “คุณภาพของเชฟผู้สอนเป็นสิ่งที่สร้างคุณภาพของสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ทุกแห่งทั่วโลก โดยทุกคนล้วนเป็นเชฟที่มีประสบการณ์และและมุ่งมั่นถ่ายทอดเทคนิคการทำอาหารชั้นสูง เพื่อให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จบนเส้นทางการก้าวสู่การเป็นเชฟมืออาชีพ”

นอกจากนี้ในงานเฉลิมฉลองในโอกาสเปิดโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แห่งใหม่ เชฟโรดอล์ฟ โอนโนผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและการเรียนการสอน ร่วมกับคุณโย่ง อาร์มแชร์ นักเรียนปัจจุบันหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารคาวชั้นสูง ยังได้ร่วมกันโชว์การสาธิตการทำอาหารฝรั่งเศสเมนู แซลมอนกราเวแล็กซ์ (Salmon Gravelax) เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดซาวครีม และการรังสรรค์ผลงานน้ำตาลสุดประณีตโดยเชฟฟาบรีส ดาเนียล เชฟรับเชิญพิเศษจาก ดลอ กอร์ดอง เบลอ ปารีส รวมถึงงานช็อกโกแลตโดยเชฟเฟร็ดเดอริก เลอกราส์ และเชฟนิรัช โชติวัชร เชฟผู้สอนวิชาการประกอบขนมอบ

นอกเหนือจากการดูแลนักเรียนเป็นอย่างดีตามคติ L ‘Art de Vivre หรือ สุนทรียแห่งการใช้ชีวิตที่แสนประณีตตามแบบฉบับฝรั่งเศสและอาหารไทยรับดับมือชีพแล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังมองหาแนวทางใหม่โดยการขยายโปรแกรมเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย

“วันนี้เราได้เปิดตัวโปรแกรมการจัดการด้านอาหารนสูง หรือ the Advanced Culinary Management Programme เพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทำอาหาร มร. คอยน์โทร ประกาศและกล่าวต่อไปว่า “โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในอุตสาหกรรมอาหารธุรกิจใหม่จำนวนกว่าร้อยละ 60 ปิดตัวลงหลังจากปีแรก และร้อยละ 80 ต้องปิดลงภายใน 5 ปี” โปรแกรมการจัดการด้านอาหารขัน้ สูง (The Advanced Culinary Management Programme) ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตนเอง โดยในประเทศไทยนั้น ธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่าประมาณสูงถึง 415,000 ล้านบาทต่อปี

มร. อังเดร เจ คอยน์โทร เปิดเผยถึงข้อมูลเกี่ยวข้องของธุรกิจร้านอาหารที่น่าสนใจว่า ปัจจุบัน คนรุ่นใหม่มีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าเป็นพนักงานขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยพฤติกรรมนี้ได้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจอาหาร ดังจะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของนักเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-25 ปี ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นมากถึง 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อประกอบกับเทรนด์การเรียนทาอาหารของคนยุคปัจจุบัน ที่เป็นอีกเทรนด์สำคัญของโลกจากปัจจัยการหันมาดูแลสุขภาพ ความนิยมในอาหารโฮมเมด อาหารคลีน รวมไปถึงความต้องการพัฒนาทักษะด้านการทาอาหารที่ถูกยกระดับให้เป็นทักษะที่ได้รับการ

ยอมรับทางสังคมก็ทาให้คนที่อยู่ในช่วงวัย 20-25 ปี หลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจอาหารมากขึ้น ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันที่รุนแรง จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่บีบให้ต้องแข่งขันกันทางด้านราคาและการสร้างความน่าสนใจ ขณะที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับทั้งต้นทุนที่สูงและการรักษามาตรฐานความนิยมเอาไว้ ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารไม่อาจหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นที่มาของการสร้างหลักสูตรใหม่ของ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต “เราสามารถพูดได้ว่าหลักสูตรวิชาการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ของเราให้ความสำคัญกับทั้งรสชาติและการบริหารจัดการไปควบคู่กันจึงจะประสบผลสำเร็จ”

นายชนินทธ์ โทณวณิก ให้ความเห็นถึงธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทยว่า ในปี 2562 ธุรกิจร้านอาหารของไทยจะยิ่งทวีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่มีความแน่นอน ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการทาธุรกิจเท่านั้นจึงจะยืนหยัดอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันนี้โดยประเภทร้านอาหารของไทยที่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจ (chain restaurant) ที่มักจะอยู่บนห้างสรรพสินค้า กับสแตนด์อโลน (stand-alone restaurant) ที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ก็มีการแข่งขันที่แตกต่างกันออกไป และมีวิธีการดาเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างออกไปด้วย

“ปัญหาที่มักจะพบในธุรกิจร้านอาหารซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จหรือนำไปสู่การปิดกิจการ คือ การควบคุมต้นทุน การรักษารสชาติและการบริการที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค 3 สิ่งนี้เท่านั้นที่จะตัดสินว่าร้านอาหารใดจะได้รับการยอมรับและคงอยู่ในธุรกิจได้” นายชนินทธ์กล่าว ได้กล่าวเสริมอีกว่า “หลักสูตรนี้จัดทำขึ้น เพื่อเสริมสร้างทักษะการบริหารจัดการที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจร้านอาหาร การวางคอนเซ็ปต์เมนู การสร้างแบรนด์และการตลาด การควบคุมต้นทุน ควบคู่ไปกับการฝึกฝนด้านการจัดการครัวอย่างมีประสิทธิภาพ”

นักเรียนในหลักสูตรวิชาการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร จะได้เน้นการฝึกปฏิบัติทำแผนธุรกิจเสมือนการเป็นเจ้าของร้านอาหารที่กำลังจะเริ่มต้นหรือขยายกิจการ และเรียนรู้จากประสบการณ์และมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอาหาร หลักสูตรนียั้งได้เปิดสอนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ปารีส และลอนดอน ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่จากทั่วทุกมุมโลกที่ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร”

ด้านนางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เปิดเผยว่า “นอกจากการเปิดหลักสูตรใหม่แล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังปรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศผ่านเอกลักษณ์ของอาหารไทยอันเป็นอีกหนึ่งแผนธุรกิจที่สำคัญของปี 2562 นี้อีกด้วย เนื่องจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นสถาบันสอนทำอาหารแห่งแรกในเครือข่าย เลอ กอร์ดอง เบลอ ที่เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนนักเรียนต่างประเทศขึ้น จาก 20% เป็น 30% ภายในปี 2563 โดยเฉพาะนักเรียนในกลุ่ม AEC ซึ่งจะใช้ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และค่าครองชีพที่มีราคาถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ในการดึงดูดนักเรียนต่างชาติ”

นางสาวสุชาดากล่าวเสริมว่า “ด้วยพื้น ที่ของโรงเรียนแห่งใหม่ ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจาก 2,000 ตารางเมตร เป็น 3,000 ตารางเมตร ทำให้เลอ กอร์ดองเบลอ ดุสิต สามารถรองรับนักเรียนในหลักสูตรหลักของโรงเรียนได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 600 คนต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการและเทรนด์ของตลาด”

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สุพัตรา นะรินนอก | Communications Manager | Play Communications Consulting
โทร +66 (0) 8 1494 4922 | อีเมล: amber.playcomm@gmail.com

นาถนรี เนตรภักดี | ผู้จัดการฝ่ายการตลาด | โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
โทร +66 (0) 2237 8877 ต่อ 1914 | อีเมล: natnaree.nt@dusit.com

The post เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เปิดตัวโรงเรียนแห่งใหม่ และคอร์สการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

VIE COSMETICS (วี คอสเมติกส์) แบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Makeup for Your Personality” นำโดย คุณเกรียงศักดิ์  จิตสอาดกุล รองประธานบริหาร บริษัท ออพติโม (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “Beauty Update แนะนำ Key Makeup Trends 2019” อัพเดท 6 เทรนด์การแต่งหน้าของปี 2019 โดยคุณนาตาชา เมลลาร์ด (Natacha Maillard) เซเลบริตี้เมคอัพอาร์ติสคนดังจากฝรั่งเศส

พร้อมแฟชั่นโชว์จากบรรดานางแบบ The Face Thailand เช่น คุณมะปราง – จุติพร อรุณโชติ, คุณปริม – กรวรรณ หลอดสันเทียะ, คุณมิ้นท์ – พุทธิดา สมัยนิยม, คุณฟ้า – ภีมสินี สว่างกล้า, คุณฮาน่า – ณธฉัตร ชาญเชี่ยว และ คุณจุ๊กกู้ – สลิตา กลิ่นจันทร์  

และแนะนำคอลเลคชั่นที่ตอบโจทย์และเหมาะกับเทรนด์การแต่งหน้าของปีนี้ได้อย่างลงตัว The GALA –GLOW Collection  ครีเอทลุคและเนรมิตให้คุณหรูหราสง่างาม ดุจซุปเปอร์สตาร์บนงานพรมแดง แบบสาว         ปารีเซียงตัวจริง โดยงานจัด ณ The Crystal Box เกษรทาวเวอร์ ชั้น 19 

คุณนาตาชา เมลลาร์ด  กล่าวว่า

“เทรนด์การแต่งหน้าของปีนี้ เป็นปีแห่งความระยิบระยับแวววาว โดยรวมจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับปีก่อน แต่จะเพิ่มเติมเรื่องความสว่างโกลว์ และความแวววาวจากชิมเมอร์ ลุคที่เป็นแมตต์จะไม่ใช่คีย์ลุคอีกต่อไป แต่จะมีการผสมผสานลุคกลอสซี่เข้ามา เพื่อเพิ่มความเงาวาวที่น่าหลงใหลเข้ามา ได้แก่

• ผิวสว่างด้วยไฮไลท์ เผยผิวสวยเป็นธรรมชาติผสมผสานกับการเพิ่มเสน่ห์ความสว่างโกลว์ ฉ่ำวาวด้วยไฮไลท์  

• ลุคกลอสซี่ โดยเพิ่มความโมเดิร์นด้วยความมันวาวของลิปเนื้อเมทัลลิค ทาทับด้วยลิปกลอสเนื้อบางเบา สามารถเติมความวาวของกลอสไปบนจุดสำคัญบนใบหน้า เช่น โหนกแก้ม, เปลือกตา , หางตา , สันจมูก หรือริมฝีปากฉ่ำ และลุคผิวโกลว์บ่มแดด ลงตัวสุดๆด้วยไฮไลท์ที่โหนกแก้มและหน้าผาก แก้มสีส้มพีชจับคู่กับลิปสีกลีบกุหลาบ แต้มบรอนเซอร์เบาๆ บนข้างแก้ม เป็น “ซันคิส” ให้ความรู้สึกผิวสวยฉ่ำสุขภาพดีในลุคร่าเริงท้าลมร้อน

• อายแชโดว์เนื้อชิมเมอร์ ความแวววาวระยิบระยับในเฉดสีอ่อนด้วยเนื้อบางเบา เพิ่มมิติบนเปลือกตา จะเข้ากันได้ดีกับผิวที่ลงไฮไลท์และเรียวปากแบบกลอสซี่

• ทรงคิ้วเรียวได้รูป และคิ้วสีสันแฟชั่น สไตล์คิ้วที่มาแรงต้องเรียบง่าย ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย หรือถ้าอยากสนุกสนานขึ้นมา คิ้วหลากสีก็เป็นเทรนด์ที่เราเจอได้บนรันเวย์เหมือนกัน

• ไลเนอร์รูปทรงกราฟฟิคแบบต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นเส้นยาว เส้นหนา หรือวิงหาง ที่สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ให้ออกมาเป็นสไตล์ของตัวเองได้เลย

• ลิปสีแดงคือเทรนด์คลาสสิคตลอดกาล การทาลิปสีแดงสไตล์สาวฝรั่งเศสเป็นเทรนด์ที่คลาสสิค     ตลอดกาลที่จะทำให้สาวๆดูทันสมัย มีเสน่ห์และสง่างาม

โดยคอลเลคชั่นที่ตอบโจทย์และเหมาะกับเทรนด์การแต่งหน้าของปีนี้ได้อย่างลงตัว นั่นก็คือ Vie Cosmetics – The GALA-GLOW Collection ค่ะ”

พบกับ Vie Cosmetics – The GALA-GLOW Collection ได้ที่ร้าน Watsons และ Euphoria Shop   ทุกสาขาทั่วประเทศ www.viecosmetics.co.th / www.facebook.com/VieCosmeticsThailand / Instagram: VieCosmetics_official #VieCosmetics

The post Vie Cosmetics x Natacha Maillard เปิดตัว The GALA-GLOW Collection ที่ได้แรงบันดาลใจ ความหรูหราสง่างาม แบบฉบับสาวปารีเซียง เครื่องสำอางใหม่ล่าสุด สำหรับเทรนด์แต่งหน้าปี 2019 appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.

ถ้ามีใครเอ่ยถึงรองเท้าบาจา หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า บาจา เป็นแบรนด์รองเท้าคุณภาพจากยุโรป ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1984ณ สาธารณรัฐเช็ก โดยนายโทมัส บาจา และปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตรองเท้าในปริมาณที่มากที่สุดในโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ บาจาได้จัดงาน ‘บาจา แฟชั่น วีคเอ็น 2019’ ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก โดยได้เนรมิตรพระราชวังโซฟิน กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ให้กลายเป็นแคทวอล์คสุดร้อนแรงในธีม ‘ดิ เอฟโวลูชั่น ออฟ สไตล์’ (‘The Evolution of Style’) สะท้อนถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของแบรนด์มาตลอด 125ปี ซึ่งงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากนักออกแบบ ดารา คนดัง และแขกผู้มีเกียรติในวงการรองเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งรวมทั้งเชิญเซเลบสาว กรอบแก้ว ปันยารชุน เป็นตัวแทนชาวไทยไปร่วมงาน  นอกจากนี้ยังมีการประกาศตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ประจำสาธารณรัฐเช็ก ประเทศบ้านเกิดของบาจา“ทาเทียน่าเกรกอร์ โบรโบฮาติ” อดีตมิสเวิลด์2006 ดารา นางแบบสาวชื่อดังชาวสาธารณรัฐเช็ก และประกาศผลผู้ชนะประกวดออกแบบรองเท้า ‘บาจา ยัง ดีไซเนอร์ ชาเลนจ์ 2019’ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แข่งกันออกแบบรองเท้าเพื่อผลิตจำหน่ายจริง

อดีตมิสเวิลด์ทาเทียน่า เกรกอร์ โบรโบฮาติ กล่าวถึงการเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดของบาจาบนเวทีว่า“โดยส่วนตัวรู้จักแบรนด์บาจาตั้งแต่เด็กและรู้สึกว่านี่เป็นเหมือนสิทธิพิเศษ เพราะบาจาเป็นแบรนด์ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐเช็กเลยก็ว่าได้ และวันนี้แบรนด์ก็เติบโตจนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ดีใจมากๆ ที่ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบาจาค่ะ”

มร.โรเบอร์โต้ ลองโก้ ประธานภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกของบาจา ได้กว่าถึงการจัดงานบาจา แฟชั่น วีคเอ็น 2019 ในครั้งนี้ว่า “ใจความสำคัญที่เราต้องการสื่อไปยังผู้คนทั่วโลกนั้นได้สะท้อนอยู่ในชื่องาน BATA fashion weekend 2019 อยู่แล้ว เราต้องการจะสื่อไปยังผู้บริโภคทั่วโลกว่า เราได้มีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆไปยังร้านต่างๆ ของเราทั่วโลก ในทุกๆ สัปดาห์ และหลักการในการสร้างสรรค์ผลงานของเรามีอยู่ 3 ประการ คือ

1.ความทันสมัย เนื่องจาก BATA fashion weekend เป็นหนทางหนึ่งที่เราจะสื่อสารไปถึงทุกๆ คนว่า บาจามีนวัตกรรม และความทันสมัยในการรังสรรค์รองเท้า

2. การผลิตรองเท้าในแต่ละคู่นั้น เราได้ออกแบบและผลิตรองเท้าเองโดยพนักงานของบาจา เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านของบาจา จะพบกับความเป็นเอกลักษณ์ของบาจา คือสวมใส่สบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลกว่ารองเท้าของเราไม่เพียงมีความทันสมัยแต่ยังสวมใส่สบายอีกด้วย

ประการที่ 3. ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสองข้อแรก คือ คุณภาพของสินค้า ซึ่งถือเป็นคำมั่นสัญญาของบาจาที่จะนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา ให้กับลูกค้าของเราที่มีอยู่ทั่วโลก เวลาเราพูดถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยม นั่นก็หมายถึง การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสบายในการสวมใส่ และมีความทันสมัย ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้ทำให้เราประสบความสำเร็จ และงานBATA fashion weekend 2019 จึงถือเป็นงานที่เราจะได้แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นว่า BATA ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตรองเท้าในปริมาณที่มากที่สุดในโลก สามารถนำเสนอนวัตกรรม และสินค้าที่ทันสมัย มีคุณภาพสูง สวมใส่สบาย มาให้กับลูกค้าในทุกหนแห่งบนโลกใบนี้”

ภายในงาน นอกจากจะมีการเดินแฟชั่นโชว์แล้ว ผู้ร่วมงานยังได้เพลิดเพลินไปกับนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรองเท้าคอลเลกชั่นต่างๆ  ทั้งของประเทศอิตาลี เอเชียแปซิฟิก ประเทศจีน และคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง เรด ลาเบล (Red Label)อินโซเลีย (Insolia)เฟล็กซิเบิล (Flexible) ไลท์ (Light)รวมถึงคอลเลคชั่นพิเศษที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก คือ บาจา เฮอริเทจ x โคคา โคล่า)Bata Heritagex CocaCola) และ เมลโล (Mello)รองเท้ากีฬารุ่นใหม่จากบาจา พาวเวอร์ (Bata Power)และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานในปีนี้ ซึ่งวงการนักออกแบบรองเท้าทั่วโลกจับตามองคือ การประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขัน ‘บาจา ยัง ดีไซเนอร์ ชาเลนจ์ 2019’  ซึ่งถือว่า บาจาได้ให้โอกาศนักเรียนและนักออกแบบรุ่นใหม่ ได้มาร่วมประกวดการออกแบบรองเท้าสนีกเกอร์ (rsSneake)โดยผลงานของผู้ชนะจะถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าจริงในจำนวนจำกัด และวางจำหน่ายในร้านบาจาที่ได้รับคัดเลือกทั่วโลก

สำหรับชาวไทยสามารถสัมผัสแรงบันดาลใจของบาจา และเลือกชมรองเท้าแบรนด์คุณภาพจากยุโรปได้ที่ร้านบาจาทุกสาขาทั่วประเทศ

The post ‘บาจา แฟชั่น วีคเอ็น 2019’ ณ กรุงปราก ดึงอดีตมิสเวิล์ดเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ appeared first on Praew (แพรว) – All Luxe You Can Reach.